โรคหอบหืด
อาการ
หอบหืดเกิดจากการหดตัวหรือตีบตันของช่องทางเดินหายใจส่วนหลอดลม
ทำให้อากาศเข้าสู่ปอดน้อยลง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการตีบตันของการหดตัวของกล้ามเนื้อรอบๆ
หลอดลมแท้จริงแล้วเป็นผลจากการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม
การอักเสบส่วนใหญ่จะเป็นการอักเสบเรื้อรัง เกิดจากภาวะที่มีการตอบสนองรุนแรง
สาเหตุ
คือ
การหายใจเอาสารที่แพ้เข้าไปในหลอดลมภาวะติดเชื้อ โพรงจมูกอักเสบ กลิ่นน้ำหอม
ยาฆ่าแมลง กลิ่นอับ กลิ่นท่อไอเสีย กลิ่นบุหรี่ ภาวะอากาศเปลี่ยน การออกกำลังกาย
โรคทางเดินอาหารบางโรค ภาวะแพ้ยา สารสี สารเคมีต่างๆ และภาวะเครียด ในเด็กที่เป็นโรคหอบหืดส่วนใหญ่สองในสาม
จะมีภาวะภูมิแพ้ด้วย แต่ในผู้ใหญ่ต่างกันที่ส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะภูมิแพ้
ความเข้าใจผิดคือ ความเข้าใจที่ว่าโรคหอบหืดเป็นผลจากภาวะแพ้เสมอไป
โรคนี้เป็นกันมาก ตาม
สถิติแล้วประมาณ
10-13 % ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในเด็กชายเป็นมากกว่าเด็กหญิงเล็กน้อย
การวินิจฉัยโรคหอบหืด
ในเด็กทั่วไปแล้วจะยากกว่าผู้ใหญ่
เพราะเด็กจำนวนไม่น้อยมีอาการอื่นร่วมด้วย เด็กบางคนไม่มีอาการหอบเลยก็ได้
ส่วนใหญ่ประวัติการเจ็บป่วยของเด็กจะไม่ค่อยสมบูรณ์ เพราะข้อมูลได้มาจากแม่เด็ก
พี่เลี้ยง ครูที่โรงเรียน หรือตัวเด็กเอง
อาการสำคัญ คือ ไอตอนเช้า กลางคืนตอนดึก ไอเวลาวิ่งเล่น หรือหลังวิ่งเล่น
คัดจมูก น้ำมูกไหล ร่วมด้วยในเด็กเล็กที่หอบอาจมีสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่โรคหอบหืด
เช่น โรคหัวใจ โรคติดเชื้อในปอด สารแปลกปลอม ถั่ว ข้าวโพด คั่วติดในหลอดลม
หรือโรคทางเดินอาหารบางชนิด การติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ
เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้โรคหอบหืดกำเริบ
ส่วนใหญ่ของเชื้อจะเป็นไวรัสที่ติดมาจากโรงเรียน หรือที่ชุมชน
เด็กจำนวนมากแพ้สารต่างๆ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา แมลงสาบ และอื่นๆ
จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบให้แน่นอน
การรักษา
โรคหอบหืดจะต่างกันในคนไข้แต่ละคนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
อายุคนไข้ และภาวะที่เกิดร่วมกับโรคหอบหืด เช่น ภาวะภูมิแพ้
หรือโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง
โดยทั่วๆ ไป
แนวทางรักษาที่ยอมรับโดยผู้เชี่ยวชาญมีอยู่ 4 ข้อดังนี้
แนะนำให้ใช้การตรวจสอบสมรรถภาพของปอด
เพื่อ บ่งชี้ความรุนแรงของโรค
และเพื่อติดตามวัดผลการรักษา
การใช้ยาเพื่อลดการอักเสบ
หรือป้องกันการอักเสบของเยื่อบุหลอดลมร่วมกับการใช้ยาเพื่อคลายกล้ามเนื้อรอบหลอดลมที่หดตัว
การควบคุมภาวะแวดล้อมต่างๆ
โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีภาวะแพ้ร่วมด้วย
รวมถึงการรักษา เฉพาะเจาะจงในภาวะภูมิแพ้
ต้องให้ความรู้คนไข้และครอบครัวเกี่ยวกับโรคหอบหืด
และการปฏิบัติตน
เช่น เลิกบุหรี่วิธีการออกกำลังกาย และวิธีใช้ยาที่ถูกต้อง
การรักษาอย่างต่อเนื่องสำคัญที่สุดในโรคหอบ หืดคนไข้ส่วนใหญ่
หรือแพทย์ส่วนใหญ่จะมองข้ามจุดสำคัญนี้ ทำให้ผลการรักษาไม่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย
คนไข้ก็ว่าไม่หายซักที หมอก็ว่าคนไข้ไม่รู้เรื่องไม่ทำตามคำสั่ง
ผลการรักษาที่ควรเกิดขึ้นมีดังนี้
สมรรถภาพปอดดีขึ้นคนไข้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ
ได้ตามปกติ หรือเกือบปกติ รวมทั้งการออกกำลังกาย
อาการเรื้อรังที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับคนไข้สิ้นสลายไป อาการ เช่น ไอ หายใจขัด
แน่นหน้าอก ป้องกันการกำเริบของโรคได้ผลข้างเคียงจากยาควรจะไม่มี หรือมีน้อยที่สุด
ความเข้าใจที่สำคัญมาก
คือ
การอักเสบของเยื่อบุหลอดลมในโรคหอบหืดนี้เป็นการอักเสบอย่างเรื้อรัง
ต่อเนื่องที่กำเริบได้เป็นระยะแม้เวลาที่คนไข้รู้สึกไม่ดี ไม่มีอาการไอ
หรือหอบ ภาวะการอักเสบนี้ยังคงอยู่ตลอดเวลา
ปัจจุบันจะพบได้ทั้งยาฉีด ยาน้ำ และยาเม็ด ทั้งรูปแบบธรรมดา และออกฤทธิ์เนิ่นนาน
เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับประทานผลข้างเคียงพบได้น้อย มีความปลอดภัยสูง
เอกสารอ้างอิง:
โรงพยาบาลเซ็นทรัล ปาร์ค
4 / 42 ม.1 ถ.
บางนา-ตราด-กม. 16 ต.บางโฉลง
อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ 10540
TEL . 02-3127261 -69
-->