วันต้อหินแห่งโลก
“ต้อหิน” เป็นสาเหตุที่ทำให้คนตาบอด
เป็นอันดับที่สองในโลก โดยมีการวิจัยพบว่ามีคนตาบอดทั่วโลก 4.5 ล้านคน
และจะเพิ่มขึ้นถึง 11.2 ล้านคนในปี ค.ศ.2020
โรคต้อหินเกิดจากความดันของน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาผิดปกติ โดยน้ำหล่อเลี้ยงจะถูกสร้างขึ้นภายในลูกตาและลูกขับออกมาภายนอก
การสร้างและการขับออกต้องสมดุลกัน ความดันลูกตาจึงจะเป็นปกติ
แต่ถ้าลูกตาสร้างน้ำหล่อเลี้ยงออกมามาก หรือขับออกมาน้อยผิดปกติ
จะทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้น และเกิดการเสียสมดุลขั้วประสาทตาจะถูกทำลาย
ส่งผลให้ลานสายตาผิดปกติ ความสามารถในการมองเห็นลดลง
มักจะเกิดจากด้านข้างของลูกตามาก่อน มองเห็นภาพมัวที่ขอบแต่จะชัดตรงกลาง
ต่อไปจะมัวลงทั้งหมดจะทำให้ตาบอดในที่สุด ต้อหินที่พบบ่อยที่สุดร้อยละ 60-70 คือ
ชนิดที่มุมตาเปิด ชนิดนี้มักจะไม่มีอาการและไม่รู้ตัว
เนื่องจากไม่มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นระยะแรก จะรู้ตัวเมื่อสายตาค่อยๆมัวลง
มองด้านข้างไม่ค่อยเห็น
คนป่วยจึงมาพบแพทย์คาดว่าจะมีผู้เป็นโรคต้อหินที่ยังไม้รู้ตัวว่าเป็นประมาณ 3
ล้านคน และชนิดที่พบได้อีกชนิดมุมตาปิด คาดว่ามีประมาณร้อยละ 30-40
จะเกิดในคนที่มีมุมตาค่อนข้างแคบ ทำให้ขวางกั้นการระบายน้ำในตา ทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน
จะมีอาการปวดตา ตาแดง ตามัว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
เห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ หากไม่รักษาภายใน 48 ชั่วโมงอาจทำให้ตาบอดได้
World Glaucoma Association เป็นองค์กรอิสระที่ประกอบด้วยสมาชิกที่ก่อตั้งเป็นชมรม
หรือสมาคมแพทย์ต้อหินจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 75 ประเทศ
ได้ริเริ่มโครงการรณรงค์เพื่อป้องกันตาบอด และการสูญเสียสายตาเนื่องจาก โรคต้อหินของประชากรในโลก
โดยเชิญชวนประเทศสมาชิกต่างๆ ร่วมทำกิจกรรมทางสังคม
และสื่อมวลชนให้คนทั่วไปทั้งที่เป็นต้อหินและไม่เป็นได้ตระหนัก
ถึงความสำคัญของการตรวจตาพร้อมกับให้การศึกษาแก่ประชาชน เพื่อทราบถึงอันตรายของโรคต้อหิน
เพื่อถนอมสายตา ให้ดวงตาสามารถคงอยู่ให้นานมากที่สุด ถ้าเราทราบตั้งแต่ระยะต้น ในประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยอาจมีคนที่เป็นต้อหินแต่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นอยู่อาจถึง
90%
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านต้อหินในประเทศไทยจากทุกสถาบันทั้งภาครัฐ
และที่อยู่ในสถาบันการศึกษาได้รวมตัวกัน
ก่อตั้งชมรมต้อหินแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นชมรมแรก ในราชวิทยาลัยจักษุแพทย
์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว จุดประสงค์ของชมรม เพื่อเป็นการรวมกลุ่มของจักษุแพทย์ที่มีความสนใจในทางเดียวกัน
จัดประชุมทางวิชาการในโอกาสต่าง ๆ ที่อำนวยตลอดมา
เพื่อพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานในการรักษาโรคต้อหิน
เป็นประโยชน์ในทางวิชาการของจักษุแพทย์ด้านนี้
และยกระดับให้จักษุแพทย์ทั่วไปมีความรู้ เพิ่มมาตรฐานในการตรวจ รักษาโรคต้อหิน
ประโยชน์สุดท้ายได้แก่ประชาชนคนไทยทั่วทุกคน
ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา
เผยภัยโรคต้อหินมีอันตรายถึงขึ้นตาบอดทั้ง 2 ข้าง เตือนผู้ที่อายุตั้งแต่ 40
ขึ้นไป เสี่ยงตาเป็นต้อหิน แนะตรวจเพื่อคัดกรองก่อนจะสาย แนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่อายุ
40 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน
ผู้ที่มีสายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับเลือดและหลอดเลือดซึ่งเลือดไหลเวียนขึ้นไปประสาทตาไม่ดี และผู้ที่ใช้ยาหยอดตาจำพวก
สเตียรอยด์ โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์
ควรได้รับการตรวจคัดกรองความดันลูกตา และตรวจขั้วประสาทตา อย่างน้อย 1 ครั้ง ที่อายุ
40 ปีขึ้นไป และอาจตรวจซ้ำเป็นระยะทุก
1-5 ปี ตามคำแนะนำของแพทย์ หากผิดปกติจะได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ประสาทตาเสื่อมมากขึ้น
ซึ่งการรักษาโรคต้อหิน เป็นเพียงการระงับไม่ให้ประสาทตาถูกทำลายไปมากกว่าเดิม
และไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นได้ชัดเหมือนเดิมเหมือนกับการรักษาตาต้อกระจก
ส่วนการรักษาโรคต้อหินในปัจจุบันมีหลายวิธี
เช่น การใช้ยาหยอดตา รับประทานยา ยิงแสงเลเซอร์ และการทำผ่าตัด แต่ละวิธีมีข้อจำกัดขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยและประเภทของต้อหิน
แหล่งที่มา:ข่าวคมชัดลึก
-->